0001 : Visual life

Visual life ชีวิตตัวเอง

สืบเนื่องมาจาก :
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/11/0006-mudleygroup-hedge-fund-manager-001.html

-------------------------------------------------------------------------------------------------

- เกิดมาเป็นลูกเครึ่ง ญี่ปุ่น อยู่บ้านนอก
- เป็นเด็กที่ได้ รับการตามใจ >> มีกริยาที่รุนแรง เมื่อไม่ได้ดั้งใจ ตั้งแต่เด็ก (3-5 ขวบ)
-- เผากองไม้สักเป็นท่อนๆ ที่อยู่ข้างบ้าน
-- ถือมีดไล่ฟันคนดูแล(เลี้ยงเราตอนเด็ก) จนคนหนีหมด เมื่อไม่ได้ดั่งใจ
-- ไปนอนเล่นกลางถนน (แม่ซื้อปืนเด็กเล่นไห้ >> คิดว่าตัวเองเป็นทหาร)
-- เอาเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าแม่ มากองที่หน้าบ้าน (โยนทิ้ง) เป็นกองๆ
-- ขโมยเงินแม่จากกระเป๋าไปซื้อขนม
-- กระชากสร้อยคอแม่ บ่อยจนไม่ไส่
-- ทะเลาะ กับคนที่ทำให้ตัวเองไม่พอใจ (มีเรื่องทุกปีตั้งแต่ อนุบาล >> ประถมตอนปลาย)

เริ่มเรียนอนุบาล(อ.3) - ประถมตอนปลาย (ป.5) (5 - 10 ขวบ)
- ไปๆ กลับ ญี่ปุ่นบ่อย จนต้องย้ายโรงเรียนบ่อย จึงมีการนำไปฝากไว้กับโรงเรียนในหมู่บ้าน เมื่อกลับไทย
- อนุบาล 3 ไปเรียนที่โรงเรียนประจำ(แพร่) (กิน นอน อยู่ในโรงเรียน) อยู่กับกลุ่มคนชาวเขา
- โรงเรียนประจำสอนให้เป็นคนที่ เข้มแข็งเมื่ออยู่คนเดียว (ไม่ได้มีพ่อ แม่อยู่ด้วย)
-- เลือกกินไมได้
--- เคยแม้หลังเลิกเรียน ไปหาขนมตกในโรงเรียนมากิน (เอามาเผาก่อน)
-- ใช้เงินซื้อขนมเท่าที่มี (5 บาท = ขนม 2 อย่าง) >> บางทีเอาไปแลกของเล่น
-- ฝึกการวินัยทำตามกฎหอพักอย่าง เคร่งครัด (คิดถึงอยู่ในคุก)
--- การทำความสะอาด โรงเรียนเมื่อโรงเรียนเลิก
--- บทลงโทษของหอพักคือ การเก็บขยะ 100 ชิ้น ต่อโทษ 1 ครั้ง ถ้าหนักก็ฟาด
--- บังคับให้ท่องศัพท์ 10 คำ ต่อการพัก 20 นาที
--- บังคับให้ทำการบ้าน ก่อนนอน (แต่ไม่ได้ทำ)
--- ของมีค่าทุกอย่าง จะโดนขโมยทันทีถ้าไม่เก็บไห้ดี
--- ขโมยแม้อยู่ในตู้ที่ล๊อคไว้
--- เป็นคนที่สกปรก
---- เด็กคนหนึ่งไม่รู้ว่า เราควจจะเปลี่ยนรองเท้าตอนไหน (รองเท้าลูกเสือไส่ 4 ปี)
---- ผ้าเช็ด ,กางเกงในตัวขึ้นเชื้อรา (มีเป็นจุดสีดำดำ) และขาด >> แต่เด็กคนหนึ่งไม่รู้ว่ามันคือ เชื้อรา
---- ถุงเท้าซัก ก่อนนอน ไส่ตอนเช้า [ชุ่มๆ แต่ก็ต้องไส่] >> เพราะว่า ถ้ามีตุน จะโดนขโมย
-- เรื่องไม่ดีที่อยู่โรงเรียนประจำ
--- ตอนอยู่ ประถมปลาย >> ขโมยของร้านขนม เมื่อคนชุกชุม (ได้เงินใช้น้อย) >>
โดนจับได้ ถูกสอนว่าไม่ดี ห้ามทำ >> เลิก

- วิชาที่ชอบคือ คณิตศาสตร์
-- เกิดจาก เห็นพ่อ เวลาที่มารับกลับบ้าน หรือเวลาว่าง จะมีกระดาษเป็นปึกๆ
และเขียนอะไรต่างๆ เกี่ยวกับตัวเลขลงไป >>พ่อเขียนได้เรื่อยๆ เหมือนเป็นสมการ
อะไรสักอย่างที่ แก้ไม่มีสิ้นสุด
-- เกิดจากการที่เห็นแม่เล่นไพ่บ่อย (นักพนัน) แถมให้เราไปดูตอนที่เล่นๆ บ่อยๆ
>> อาจเพราะมีความเชื่อที่ว่า
>>ถ้าได้จับ จู๋ เด็กตอนเล่นไพ่ ดวงจะเฮง และผมก็ได้เงิน >> บางครั้งก็ไปนั่งเฝ้าแม่บ้าง
-- จุดที่ทำให้ชอบอีกอย่างคือ เราเรียนพิเศษ ตอนปิดเทอมทีบ้าน และหลังจากไปเรียน
ตอนนั้นป. 3 >> เมื่อเรากลับไปเรียนตอน ป.4 >> เรามีความรู้ทางคณิตสาสตร์จากการเรียนพิเศษ
จึงได้คะแนนดี >> ได้ไปแข่ง >> แพ้ เพราะ สมการแก้อยู่ห้องเรียนคำตอบ จะเป็นรูปสี่เหลี่ยม
แต่ สมการที่ให้แก้ตอนแข่งเป็น XYZ (- -)
- วิชาที่ไม่ค่อยชอบ จะเป็นวิชาเกี่ยวกับพวกความจำ และภาษา
-- ภาษา
--- มันเป็นวิชาที่มันมี ศัพย์เฉพาะ เช่นคำราชาศัพท์ (มันใช้ความจำ)
Ex เคยถามเพื่อนในห้องสอบ (ป.4) โจทย์คือ แปลคำราชาศัพท์ แต่เราไม่รู้เรื่อง เลยถามว่ามันคืออะไร
เพื่อนก็ตอบแบบยกตัวอย่างมาว่า โลหิต = เลือด (?) >> ????
--- มองว่ามันไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ ?
-- ประวัติศาสตร์
--- เป็นวิชาที่ใช้ความจำ (พวกชื่อสถานที่ ชื่อคน)
--- เป็นวิชาที่ต้องศึกษาอย่างประติดต่อ (ขาดเรียน 1 คาบต้องซ่อม) >> มาเรียนทีก็ไม่รู้เรื่อง

เรียนมาเรื่อยๆ ได้ย้ายโรงเรียน มาเรียนที่ ลำปาง (10 - 12 ขวบ)
- ย้ายมาตามพี่สาว พี่สาวเรียนที่โรงเรียนประจำแพร่ไม่ไหว >> ย้ายมาก่อน 1 ปี
- ตอนนี้ย้ายมาเรียนอยู่ หอนอก (เมื่อก่อนเวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในโรงเรียน)
>> หอนอกเวลาอยู่นอกโรงเรียน ค่อนข้างเป็นอิสระ
- เกมส์
-- เงินที่ได้นอกจากการกิน คือเหลือมาเล่นเกมส์
-- บางทีอดอาหารมาเล่นเกมส์บ้าง (หิวก็หิว) เคยหิวจนตาลายเลยก็มี
- ยังคงทีเรื่องทะเลาะวิวาท บ่อย (คิดเป็นปี) เข้าห้องปกครองบ่อย

ย้ายโรงเรียนอีกทีที่ลำปาง แต่เป็นโรงเรียนรอบนอก (13 - 18 ปี)
- สาเหตุที่ย้ายมา
-- ใกล้บ้านมากขึ้น
-- รู้สึกเหมือนทางบ้านเริ่มมีปัญหาทางด้านการเงิน
>>  ในตอนนั้นมีความคิดที่ว่าการไปเรียน และอยู่ในจังหวัด มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าอยู่บ้าน
- มีความรู้สึก อายเพื่อนที่มีพ่อเป็นคนญี่ปุ่น (ไม่เหมือนชาวบ้าน) (คิดแล้วเศร้า คิดได้ไง)
- ดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ครั้งแรก ที่เขื่อนกับเพื่อน เพราะต้องการการยอมรับทางสังคม
- ตอนอายุ 13 เริ่มมีแฟน (ม.2)(Puppy love)
-- อกหักจากแฟน >> หลังจากนั้นเป็นช่วงที่ขยันที่สุดใน ชีวิตช่วงหนึ่ง (ตื่นตี 4 อ่านหนังสือ หลับ 2 ทุ้ม)
>> เพื่อแสดงให้แฟนเห็นว่า เขาต้องเสียใจที่ทิ้งเราไป(ด้วยความเป็นเด็กจึงคิดอย่างนั้น)
>> ผลจึง มีผลการเรียนที่ดีขึ้นมาก (ก้าวกระโดด) >> แต่ก็ต้องมาเสียใจทีหลัง เพราะเขามีแฟนใหม่แล้ว
- ช่วงอายุ 15 โรงเรียนมีกิจกรรมแข่งบาส เป็นช่วงที่เราอารมณ์ร้อนมาก
>> เคยตะคอกไส่เพื่อน ในระหว่างการแข่ง เพราะไม่พอใจที่  >>
เพื่อนเล่นไม่ดี (ตอนนี้ยังดีที่ไม่เสียเพื่อนคนนั้นไป)

มัธยมศึกษาตอนปลาย (15 - 18 ปี)
- เริ่มขึ้น ม.4 อยากได้มอเตอร์ไซค์ ใหม่ (ระยะทางจากบ้านถึง โรงเรียน 30 กิโลเมตร)
-- ประท้วงหนัก ถึงขั้นบอกว่า จะไม่เรียนต่อ เพราะมันลำบากเวลาเดินทาง (ข้ออ้าง)
-- ที่บ้านก็มีรถอยู่แล้ว 2 กัน (รถคันเก่า) (เพียงพอต่อการใช้งาน)
-- เป็นเพราะ ECO สูง รถที่ได้ต้องเป็นคันใหม่เอาไว้ อวดเพื่อนๆ (ต้องการการยอมรับจากสังคม) >>
ไม่กล้าขี่รถเก่าไป โรงเรียนเลย
-- มีความคิดที่ว่าถ้าเราแต่งรถ เราจะเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากเพื่อน
>> แต่งรถ เพราะต้องการได้รับการยอมรับทางสังคม
-- ECO สูงขั้นตอนเรียน รด. เพื่อนที่นั่งไปด้วยบาดเจ็บต้องพัก >>
เรายังต้องให้แม่ของเขาเอารถมาให้เราใช้ (รถยางแบน เพราะ เป็นรถแต่ง)
- หัดเล่นกีต้าร์ เพราะจะเอาไว้จีบสาว (ต้องการการยอมรับจากเพื่อน) >> ล้มเลิกไป
>> มาเห็นเพื่อนที่หัดเล่นกีต้าร์ทีหลัง แล้วแซงเรา >> กลับรู้สึกว่า ทำไมเราถึงทำไม่ได้
>> ฝึกเล่นกีตาร์ไปเรื่อยยๆ จนเป็น
- ช่วงหนึ่งตอนปิดเทอม ตอนดึกจะไปเล่นหมากรุก กับคนเก่งในหมู่บ้านที่ โต๊ะสนุ๊กบ่อยๆ
>> แพ้ตลอด >> เพราะเขามีประสบการณ์มาก

ช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 6 (เป็นช่วงที่ต้องตัดสินใจอะไร หลายๆอย่าง)
- มีแฟนเป็นเพื่อนร่วมห้อง >> ไปให้เขาช่วยงานบ่อยๆ (จีบ)
- ต้องเข้าสู่โหมด จริงจังอีกครั้ง >> เพราะต้องหาที่เรียน
- ไปเรียนพิเศษ ณ สถาบันแห่งหนึ่ง โดยมีมุมมองว่า จ่ายครั้งเดียวเขาสอนเราทุกวิชา เรียน 1 เดือน
(จ่ายเงินปริมาณที่น้อย แต่ได้ทุกวิชาครบ) >> ผลที่ตามมาคือ เรียนทุกวิชาครบ  >>
แต่ละวิชาใช้เวลาสอนแบบ เร่งให้จบๆ >> ความรู้ที่จึงเป็นวิชาละ หย่อมๆ >> สรุปไม่คุ้ม
- เพื่อนแต่ละคนเลือกวิชาที่จะจริงจังหมด โดยแยกสรุปเป็นวิชาที่ตัวเองถนัด และทำมันให้ดีที่สุด
- เราเลือก คณิต และฟิสิกส์ (คณิต ศึกษาเองจนนำหน้าที่สอน >> จะนำไปใช้สอบ)
- เปิดไฟนอน เพราะ ถ้าสะดุ้งตื่นจะอ่านหนังสือต่อ >> วิชาที่เลือกอ่านเป็น พื้นฐานวิศว และคณิต
- เลือกสอบหลักเป็น คณะวิศวกรรมคอม กับวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (เดิมพัน) >> เดิมพันแพ้
- ECO สูงคิดว่าตัวเองเก่ง >> สอบข้อสอบ มช. พลาด เพราะ เราคิดว่าข้อสอบต้องออกยาก
>> อ่านเกรงข้อสอบที่ยาก >> ทำให้เราตายน้ำตื้น (พื้นฐานไม่แน่น ทะลึงเล่นท่ายาก)
- เพื่อนในห้องเกือบทุกคน มีที่เรียนกันเกือบหมดแล้ว แต่เหลือเรากับเพื่อนอีกคนที่่ยัง
- ECO สูง จึงอยากได้มหาลัยที่มันดีๆ (เพื่อนในห้องได้แต่ มหาลัยที่มันขึ้นชื่อ) โดยไม่ค่อยสนใจคณะ
>> แต่อยากได้ มหาลัยที่อยู่ในภาคเหนือ (ไม่ค่อยชอบอากาศที่อื่น (ร้อน))
- รอยาวจนถึง Admission มีหลักการเลือกคณะ (ใช้ข้อมูลทางสถิติในการเลือก Ad)
- เลือกเรียนอาหาร (ECO สูงเหมือนเดิม) >> ติด
-- สาขานี้ คะแนน Ad สูงที่สุดในมหาลัย (น่าจะดีที่สุดในมหาลัย)
-- เป็นมหาลัยในภาคเหนือ
--ไม่เคยเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับอาหารเลย (เลือกกินไม่ได้ตั้งแต่เด็ก)
>> แค่อยากรู้ว่า สิ่งที่เรากินแต่ละอย่างมี ผลอะไรต่อร่างกาย

มหาลัย (19 - 22 ปี)
- เรียนในสาขาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอาหาร
- เป็นมหาลัยที่ สามัคคีกันจริงๆจังๆ >> มีบททดสอบทางจิตใจ >> ให้รักกัน
- บททดสอบ ทางจิตใจ
-- พี่ดูแลน้อง
-- การซื้อใจเพื่อน ,ซื้อใจน้อง
- เรื่องเรียนไม่น่าเป็นห่วงเพราะ ตอน ม.ปลาย เราทุ่มอย่างหนัก
- ตอนแรกมีความคิด ย้ายมหาลัย >> แต่นานๆไป >> กลัวพี่รหัสจะเหงา (รหัสขาด) >> เรียนต่อ
- ช่วงมหาลัยเป็นช่วงที่เริ่มการลงทุนในอะไรหลายๆอย่าง
- ตอนเรียนเริ่มมองหาเป้าหมายในชีวิต ว่าชีวิตต้องการอะไรกันแน่
-- ถามตัวเองลึกๆ >> อยากอยู่ที่บ้าน (ไม่ค่อยได้มีโอกาสอยู่บ้านตั้งแต่เด็ก) (คิดว่าบ้านเป็นสถานที่อบอุ่น)
-- จึงมีคำถามต่อมาอยู่ว่า แล้วจะทำอะไรอยู่ที่บ้าน (บ้านนอก) >> คำตอบที่ได้คือต้องลงทุนทำอะไรซักอย่าง
-- มีความคิดที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ >> อาจเนื่องจากเคยเห็นพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจคนงานตอนเด็ก
- การลงทุน Forex (การแลกเปลี่ยนค่าเงิน) เริ่มแรกในตอนปีที่ 2
>> น้องข้างห้องเรียนสาขา เศรษฐศาสตร์ >> แล้วเทรดจากนั้นก็มีคนกำไร >> เราก็ตาโต >> ตามๆ
- ศึกษาการเทรดไปเรื่อยๆ หาหนังสือ >> หนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้มีไม่มาก >> จ้างคนสอน (แพงชิบ)
- เทรดไปด้วย เรียนไปด้วย ระหว่างทาง
- เคยโดนโกงเรื่องค่าสอน FX >> ความโลภบังตา
- ปีที่ 3 พ่อป่วยเข้าโรงพยาบาล(เส้นเลือดในสมองตีบ) ทำให้รู้สึกว่า เสาหลักที่บ้านกำลังสั่นคลอน
>> รู้แค่ว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง >> เลือกเดิมพันในการเทรด FX
- เป็นปีที่กิน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยมาก >> เพราะไม่รู้ว่าตัวเองลึกๆ แล้วเครียดเรื่องอะไร >>
วันที่คิดได้ ร้องไห้กลางร้านเหล้าเลย (มาคนเดียว กินคนเดียว)
- การเทรดดำเนินไป เรื่อยๆ แล้วก็ เสียเรื่อยๆ (Short Run)
- เคยเทรดเสีย (จากเงินกระปุกออมสิน) ทำใจเข้าวัด ให้อาการดีขึ้นเป็นเดือน
(นั่งให้อาหารปลา เป็นชั่วโมง ทุกวัน)
- เคยมีครั้งหนึ่งบริจากเงินให้ขอทางที่ พิการ(ถนนคนเดิน) >> ตอนบริจากได้กระซิบบอกขอทานว่า สู้ๆนะ
>> ผลที่ได้คือ ขอทานยิ้ม และตอบกลับมาว่าขอบคุณครับ >> ความรู้สึกที่ได้รับเหมือน
>> เขาสู้กับความลำบากมาขนาดนี้ >> หันมองตัวเองว่าทำอะไรอยู่ ?
- ปีที่ 4 ได้ฝึกงานที่ โรงงานอาหารแห่งหนึ่ง >> สิ่งที่ได้เรียนรู้
-- ได้รู้ถึงความกดดันในการทำงาน
-- การเอาตัวรอดในสังคม
-- การคุมคนงาน (ชาวต่างชาติ)
-- ได้ช่วยเหลือเพื่อนที่เรียนไม่เก่ง
- หลังจากฝึกงานเสร็จ >> กลับบ้าน >> ทะเลาะกับแม่ >> หนีออกจากบ้าน >> ก่อนจะออกจากบ้าน
>> บอกแม่ประโยคทิ้งท้ายว่า ขอเงิน หนึ่งแสน >> จะไปลงทุนตลาด (เดิมพัน)
>> ผลที่ได้ ขาดทุนเยอะพอสมควรในเวลา (2 เดือน) >> แล้วจะทำอย่างไรต่อ ?

หลังเรียนจบมา (23 - ปัจจุบัน)
- คิดถึง เป้าหมายที่เคยวางไว้ >> ประกอบไปด้วย โจทย์ 2 ข้อ
-- อยากอยู่บ้าน >> อยู่บ้านแล้วจะหาเงินอย่างไร ?
-- อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ >> แต่ประสบการณ์ไม่มี >> ขายของบ้านนอก ขายใช้ชาวบ้าน
>> เงินที่ได้จะไม่พอใช้
- เคยถามตัวเองว่า ลึกๆทำไมถึงอยากอยู่บ้าน >> สาเหตุเพราะ ในสังคมบ้านนอก >> หากมีคนล้มป่วย
>> ตอนกลางคืน (อยู่คนเดียว) >> ใครจะดูแล >> และถ้าคนดูแลขับรถไปโรงพยาบาล
>> จะเร็วกว่ารถพยาบาลมารับ (ห่างจาก โรงพยาบาล 20 เมตร)
- เคยติดต่อไปเข้าค่ายที่ เชียงใหม่เกี่ยวกับ เกษตรที่ สวนปันปัน (อาจารย์โจน จันใด)
>> ได้รับการตอบกลับ ว่าสามารถเข้าได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า >> รู้สึกว่าช้าไปสำหรับผม
- [Give up] >> กลับมาที่บ้าน >> พร้อมเหลือเงินบางส่วน >> ไปถามฟาร์มเมล่อนแถวที่บ้าน
>> ว่าทำไมเขาถึงเลือกปลูกเมล่อน (บ้านนอก) >> ได้รับคำตอบ (ราคาแพงขายได้)
>> เขายื่นข้อเสนอให้มาทำงานด้วย >> ได้ทำงาน (ต้องการประสบการณ์)
- ระหว่างที่ทำงาน ก็ ทำไปด้วย เทรดไปด้วย (ไม่ล้มเลิกการเทรด)
- ได้เรียนการเทรด จากสำนักหนึ่ง (เทรด TA ไปเรื่อยๆ ฝึกความแม่น) >> เป็นเวลา 1 ปี
- ระหว่างเทรด เหมือนถอยหลังไปเรื่อยๆ (แต่ไม่ล้างพอร์ต แล้ว) >> ศึกษาวิธีใหม่ที่เหมาะกับเรา
- ระหว่างที่ทำงาน ได้เงินกำไรจาก BTC มาพอสมควร >> จึงเอาเงิน (1 แสนที่เคยยืม)
>> คืนแม่ >> แต่จะคืนเป็นหุ้น
- ระหว่างที่ทำงาน ก็ศึกษาเรื่องหุ้นไปด้วย >> ขอเงินแม่เพิ่ม อีก 3 แสน (4 แสน) >> ลงทุนหุ้น

-------------------------------------------------------------------------------------------------
เป้าหมายในชีวิต
- ลงทุนในหุ้นให้ประสบความสำเร็จ (อันดับแรก)
สาเหตุที่ต้องลงทุนหุ้น (เหตุผลลึกๆ) คือ
-- อยากอยู่บ้าน กับครอบครัว
-- ที่บ้านไม่มีใครทำงาน เพราะอายุเยอะแล้ว >> มีแต่รายจ่าย
-- เงินที่บ้าน (เงินพ่อ แม่) >> โตไม่ทันเงินเฟ้อ >> เราจะลำบากในอนาคต

- ทำธุรกิจส่วนตัว (อันดับสอง) >> ต้องเป็นเงินที่ได้จากการลงทุน
สาเหตุ
-- อยากช่วยเหลือคนอื่น >> ต้องการให้คนในหมู่บ้านมีงานทำ

-------------------------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น