KZM : Killer Zone Model : EP3 [Pantip]

KZM : Killer Zone Model : EP3 [Pantip]
- แนวคิด DSM ไม่ต่างจาก แนวคิดเฮดจ์ฟันหลายๆสำนัก (ยึดครองพื้นที่) โดยใช้เงินเท่าเดิม
- แนวคิด DSM ดี แต่ต้องนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม
จุดแข็ง
- มีวินัยในการซื้อขาย (มีขั้นตอนการซื้อขาย)
- สร้างความสบายใจด้วยกระแสเงินสดแฝง และปริมาณหุ้นที่เพิ่มขึ้น
จุดอ่อน
- การเลือกหุ้น (เลือกหุ้นไม่ดี จะสะสมไปเพื่ออะไร ?)
การนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- เลือก Product ที่เหมาะสม
- เลือก หุ้นที่คิดว่าจะอยู่กับเราไปนานๆ (ETF ก็ได้)

- ถ้าต้องการส่วนต่างจากเกมส์การเงิน ต้องเลือกสนามในการเล่นไห้ถูกต้อง
- คนทั่วไปมักมองเห็น Short Run > Long Run ต่างจาก Fund มืออาชีพ มอง Long Run > Short Run
- หลังจากการเลือกสนาม ขั้นต่อมาคือ วางแผนกลยุทธ์
- ก่อนวางกลยุทธ์ ต้องเข้าใจสภาวะพื้นฐานตลาดทุน
พื้นฐานตลาดประกอบด้วย 2 ส่วน
-- Swing ช่วงตลาดทิศทางไม่แน่นอน
-- Trend ช่วงตลาดไปทิศทางชัดเจน
- Model ที่ออกแบบ ต้องรับมือได้กับทั้ง 2 สภาวะ

- พวก Fund ต่างๆ ใช้กลไกลทางทุนนิยมเอาเปรียบตลอด ทั้งๆที่เราเป็นเจ้าของปัจัย

- ลึกๆของคนเรามีความต้องการ แต่ต่างกันในแง่ของ ปริมาณ และคุณภาพ

- การลงทุนแบบ ผลกำไรทบต้น (นำไปไรไปรวมกำต้น และสร้างผลตอบแทน) จำทำให้เรา >>
Turn winning system in to a losing system โดยไม่รู้ตัว
- เป็นเหตุผลที่ คนที่มี System ดี ไม่สามารถหากิน Long Run ได้ ดังนั้นจึงต้อง Unit Fix
- Unit Fix คือมีเงิน แบ่งเป็นกองๆ จากนั้นลงทุนในกรอบ อาจไม่ได้เยอะแต่ได้ชัว
- การแบ่ง Unit Fix เป็นการฝึกที่ทำให้ไม่ลงทุนเกินตัว
- พวก Fund มีกลยุทธ์ที่แน่นอน ทำธุรกรรมได้ทุกวัน หารายได้เล็กๆ เข้ากระเป๋า
- พวก Fund เน้น Game Theory มาก
-- มักจะไปลงทุน ที่มีรายใหญ่ (ทองคำ ,น้ำมัน)
- ออกแบบ โมเดลที่รู้จักแพ้บ้าง เราจะกลายเป็นผู้ชนะเอง

- แนวทางที่ดีสุด ไม่ได้ให้ผลตอบแทนดีสุด แต่สามารถสำเร็จได้ง่าย
- แนวทางที่ยาก  โอกาศสำเร็จยาก จะให้ผลตอบแทนสูงมาก

พี่ต้านแบ่ง โมเดลเป็น 4 ส่วน
- DSM ตามสไตล์ ไม่ใช่ DSM แท้ (ตลาด Swing จะสะสมหุ้น และสร้างกระแสเงินสดแฝงได้)
- ป้องกันความเสี่ยงจาก DSM
- โมเดลตามเทคนิคใช้ Moving Average
- ป้องกันความเสี่ยงจาก เทคนิคง่ายๆ

Ex การเลือก Product (ตัวอย่างเลือก ETF)
- ค่าคอมถูก บางโบรคไม่มีค่าคอม
- วางแผนง่ายไม่ขึ้นก็ลง
- เม็ดเงินมาจากหลายส่วน (ส่วนหนึ่งมาจาก Market maker รักษาระดับให้ใกล้เคียงดัชนี)
ข้อเสีย
- ผลตอบแทนน้อย เมื่อเทียบกับหุ้นรายตัว

- การวางแผนพอร์ต สมมุติมีพอร์ต 50000 บาท (ต่อสู้โดยสัดส่วน) แบ่งเป็น 100 ส่วน ส่วนละ 500 บาท
A กองทหาร DSM 25 กอง = 500*25 = 12,500 บาท
B กองทหารคุ้มครอง DSM 25 กอง = 500*25 = 12,500 บาท
C กองทหารรบแบบกองโจร (TA) 25 กอง = 500*25 = 12,500 บาท
D กองทหาร อารักขากองโจร 25 กอง = 500*25 = 12,500 บาท
- สมมุติ มองกรอบ Set50 อยู่ที่ 400 - 600 (200 จุด)
- เราจะมีกองรบ ทั้งหมด 20 กว่ากอง จะได้สนามรบกองละ 10 จุด
- ถ้า Set ลงมา 480 จุด เราจะส่งกอง A(1) และB(1) เข้าสู่สนามรบ อย่างละ 100 หุ้น และรบทันที
- หากกำไรภายในวันนั้น B(1) จะออกจากสนามรบทันที (TP ทันที)
- ถ้า Set ขึ้นมา 490 จุด เราจะส่งกอง A(2) และB(2) เข้าสู่สนามรบ
- หากกำไรภายในวันนั้น B(2) จะออกจากสนามรบทันที (TP ทันที)
- ถ้า Set ขึ้นมา 500 จุด >> กอง A (1) ที่คุม Zone  480 ออกจากสนามรบ
- ถ้าหุ้นตกลงมาเรื่อยๆ เราก็เล่นตาม level
- DSM คือทหารที่รบอย่างมีวินัย
- กอง(C) และกอง(D) จะเข้าก็ต่อเมื่อได้รับสัญญาณทางเทคนิค (อาจใช้ Moving Average (ระบุเทรน))
- ถ้า Moving Average  ยืนเหนือเส้น ส่ง C(1) และ D(1) เข้ารบ
- หาก หากสัญญาณถูก  D(1) ออกจากสนามรบในวันนั้น
- ส่วน C(1) ทำตามสัญญาณ รอสัญญาณออก
- หากเดาผิดก็ไม่เป็นไร รอสัญญาณต่อไปส่ง C(2) และ D(2) เข้ารบ
** การลงทุนแบบนี้ไม่ใช่การลงทุนแบบ ปกติหรือเก็งกำไร แต่เป็นการครองพื้นที่ (ไม่ควร Cut Loss)
** กอง(B) และกอง(D) หากกำไรให้ออกก่อนปิดตลาด (ป้องกันความเสี่่ยงในวันถัดไป)
** อาจมองเห็นว่ามีการซื้อขายไม่เยอะ แต่หัวใจสำคัญ คือกินยาว
A เป็นการฝึกวินัย
B เป็นการฝึกสัญชาติญาณ ในการเทรด หากจุดออกทำกำไรใน Zone
C เป็นการฝึก อ่านกราฟ (TA)
D เป็นการฝึกสัญชาติญาณ ในการเทรด หากจุดออกทำกำไร

สิ่งที่สำคัญ
- Money Management สามารถเปลี่ยน ผู้แพ้ระยะสั้นเป็นผู้ชนะระยะยาว
ส่วนผู้ชนะระยะสั้น จะกลายเป็นผู้แพ้ระยะยาว
- วินัย จะฝึกอะไรก็แล้วแต่ต้องใช้วินัย เราต้องใชเวลาอยู่กับสิ่งนั้นนาน
- สัญชาติญาณ เป็นส่วนสำคัญทำให้เราต่างจากคนอื่น

--------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2008/08/I6908867/I6908867.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น