MudleyGroup : Hedge Fund Manager : EP1

Hedge Fund Manager 001
สรุปความรู้ที่ได้จาก : https://www.youtube.com/watch?v=DbQfoaQoR5M

Visual life วิเคราะห์ชีวิตที่ผ่านมาของตนเอง >> เพื่อที่ทำให้ตัวเองเดินต่อไปได้
ประวัติพี่ต้าน
- เป้าหมายภาพต้องชัด
- พี่ต้านยังไม่รู้ตัวเองว่าต้องการอะไร
-- แต่ชอบการแข่งขัน  >> ชอบแข่งแม้รู้ว่าสู้ไม่ได้
Ex Eng เกรด 1 แต่ไปสู้กับ เกรด 4 ,เล่นเกมส์กับเพื่อนแล้วแพ้ แต่จนชนะ
- เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ที่เสพติดความชนะ
- พี่ต้านชอบเล่นหมากรุก >> คิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ (เนื่องจากตัวเองเดินเร็วมาก)
- พรสวรรค์ เป็นแค่ตัวจุดสตาร์ด >> ทำให้เรียนรู้เร็วกว่าคนอื่น >> แต่มันประกอบด้วยอะไรหลายๆอย่างมาก
- เป็นนักหมากรุกที่อายุน้อย
-- เมื่อถึงจุดหนึ่งชนะ จนเชื่อว่าตัวเองเก่ง >> ไปเจอคนที่เก่งกว่า เกิดอาการช๊อค (อายุ 14)
-- ช๊อค >> รู้สึกยอมแพ้
-- มีความคิดว่าต้องแข่งกับคนที่เก่งกว่า เพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้น >> แต่ผิดคาด >> ยอมแพ้เลย >> หันไปทำอย่างอื่น
- ช๊อค >> อ่านหนังสือ ไปเรื่อยๆ ที่มีในห้องสมุด (ไม่รู้จะทำอะไร) >> ความรู้สึกผิดหวัง ไปหมด >> แข่งไปหมด แข่งทุกอย่าง
* เจอสิ่งที่เราทำได้ดี แต่มันทำไม่ได้ตามเป้าของเรา >> ทำให้เกิดการช๊อค >> รู้สึกท้อแท้ >> ทำให้ยอมแพ้ในหลายๆเรื่อง >> ทำอะไรไปเรื่อยเปื่อย
* เป็นเรื่องของธรรมชาติที่ ส่งบททดสอบต่างๆมาให้เรา และ เราต้องเป็นคนทดสอบก่อน ถึงจะรู้ว่าเราจะไปต่อ หรือยอม
- จนถึงช่วง เอนทรานซ์ ต้องสอบเพราะคิดว่า ตัวเองไม่มีอะไรซักอย่าง คิดแค่ต้องสอบเข้า วิศวให้ได้
- พอไปเรียนก็สู้เขาไม่ได้ เรียนไม่รู้เรื่อง ,สู้เขาได้แค่คณิตศาสตร์ (เพราะมีพื้นฐาน)

จนวันหนึ่ง
- ยืนรอรถเมย์อยู่ มองเห็นตารางหนังสือพิมพ์ (หน่วยลงทุน) >> อยุ่ข้างหน้าหนังสือพิมพ์
- เกิดความสงใสว่าตัวเลขคืออะไร ทำไมมีการเคลื่อนไหวทุกวัน >> ตัดสินใจซื้อ (ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองซื้อมาทำไม) >> ซื้อจนติดเป็นนิสัย
- บางทีทิ้งหนังสือพิมพ์ทั้งหมด แต่ตัดแต่หน้าตัวเลข
- คิดว่าถ้ามีตัวเลขเหล่านี้ เราจะทำยังไง
- เริ่มรู้ว่ามันคือตลาดหุ้น เริ่มเทรดตั้งแต่ปี 1
- ปี 1 เริ่มมีเงินจากการสอนพิเศษ กับเงินที่บ้านให้ (2 - 3 หมื่น)
- เปิดบัญชี โดน เทเรคอมเอเชีย >> Fail อีกครั้ง กลับมาคิดว่าต้องทำอย่างไร >>
แต่ไม่รู้สึก Fail เพราะเป็นมาตลอดชีวิต
- เริ่มศึกษาอาชีพ Trader >> ไปตลาดหลักทรัพย์ไปถามว่า Trader คืออะไร ? มันคืออาชีะอะไร ?
- หาหนังสืออ่านมากที่สุด หอสมุดต่างๆ (สมัยนั้นไม่มี อินเทอร์เน๊ต)
- เจอหนังสือเล่นหนึ่ง อธิบายอาชีพ Trader คือ ใช้เครื่องมือในระบบทุนนิยม ในการหาเงิน
- ตั้งใจว่า อาชีพนี้น่าสนใจ และมีความท้าทาย
- เริ่มศึกษา จาก Technical Analysis (TA)
- ศึกษาจนไปถามเพื่อน >> เพื่อนพาไปบ้าน พ่อที่บ้านจะโล๊ะหนังสือเกี่ยวกับ TA จึงไปขอมา
- ศึกษา TA จนไป Cut Loss เทเรคอมเอเชีย
- ใช้ TA ในการเทรด และกำไรตลอด ใช้ Slope ในการเทรด
(ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง Slope) จะขายออกก่อน
- เทรดจนได้เงินคืนมา
- ทดสอบความรู้ โดยการไปแข่งที่ตลาดหลักทรัพย์ >> ชนะคู่แข่งขาดลอย (ตลาดขาลง)

- ลงหนังสือพิมพ์ >> ฝรั่งอ่านหนังสือ ไปติดต่อคนได้ลำดับที่ 1 - 2 - 3 >> แต่มีพี่ต้านไปคนเดียว (ไม่มีอะไรจะเสีย)
- ฝรั่ง 2 คนพนันกันว่า เทรดจากเดโม่ไม่สามารถเทรดจริงได้หลอก คนหนึ่งเดิมพันรอด อีกคนเดิมพันไม่รอด
- เอาพี่ต้านเป็นคนพนัน (ถ้าพี่ต้านทำได้คือ เปลี่ยนชีวิต)
* คนอื่นจะเห็นเราได้ เราต้องพิสูจน์ ในระดับหนึ่งก่อน
- ฝรั่งถามว่าสนใจที่จะเทรดให้เขาไหม (พอร์ตที่บริหารคือเงิน ประมาณ 10 ล้าน)
- ฝรั่งคนที่แพ้ขอ เดิมพันเพิ่มว่า ต้องให้พี่ต้านลาออกจากมหาลัยเพื่มมาเทรดให้เขา
- พี่ต้านยื่นโปรเจคจบเรียบร้อยแล้ว (รอจบ) >> พี่ต้านต่อรองว่าดรอปได้ไหม >> เขาไม่ยอม
- ถ้าพี่ต้านลาออกแน่นอน ให้เซนสัญญาแล้ว เอาเอกสารลาออกมายืนยันทีหลังได้
- ติดต่อไปว่าจะลาออกแน่นอน >> ไปเซนสัญญา (ไม่บอกทางบ้านเพราะถ้าที่บ้านรู้ จะโดนห้ามแน่นอน)
- เริ่มเทรด เพราะถ้าทำไม่สำเร็จ คือจบแน่นอน (ไม่มีปริญญา) มันคือชีวิต
- เริ่มคิดการบริหารพอร์ต ใช้เงินไม่เยอะ
- ประสบความสำเร็จในตลาด
- ใช้พอร์ตไปสมัครงาน ที่ Efinance เขารับ โดยเป็นวิทยากร
- มีการเขียนให้ เชียร์ หุ้น แต่พี่ต้านไม่เชียร์
- ตอนนั้นพี่้ต้านมี ECO เยอะมาก >> มองตัวเองว่าตัวเองเทรดได้แล้ว ใครจะไม
- ระหว่างที่บริหารพอร์ต พี่ต้านมีแอบไปเรียน คณะบริหาร ม.กรุงเทพ >> ดรอปเรียนจนลืม
>>แต่ไม่จบ เพราะถูกส่งตัวไปเมกาต่อ
- อยู่ดีๆ โดนส่งตัวไปเมกา >> โดยถามพี่ต้านว่า อยากรู้ไหมว่า Trader จริงๆเป็นอย่างไร ?

- ไปเมกามี ECO สูง >> ไม่ต้องการให้ใครมาสอนเรา
- ไปเจอ mentor >> เจอครั้งแรกมันเป็นไคร มาสอนเรา
- โดนสั่งว่าให้เราของไปเก็บที่เขา >> แล้วจะใช้ยังไง ?
- ให้เงินเป็นต่อสัปดาห์ >> โดยดำรงค์ชีวิตใน คาสิโนให้ได้
- ต้องเล่น Poker เพื่อดำรงค์ชีวิตให้ได้
- คนเกาหลี ถามคำถามแรก เกณฑ์ เท่าไหร่ถึงผ่าน - คำตอบอยู่ที่ mentor
- จัดกลุ่มกัน คน Asia จะจัดกลุ่มกันเอง เหลือพี่ต้าน
- พี่ต้านได้กลุ่มรัสเซีย กับคนยิว
- การคบเพื่อนต่างเชื้อชาติ
-- แต่ละเชื้อชาติมีความคิดที่แตกต่างกัน
-- คนรัสเซีย คิด+ คิดว่าเขามีเงินให้ตั้ง 50 เหรียญ >> พี่ต้านคิดว่า 50 เหรียญอยู่ยังไง
-- คนยิววางแผน เพื่อดำรงค์ชีวิตให้อยู่ในได้ 1 สัปดาห์ >> วางแผนหาสถานที่กินฟรี
>> คนยิว จะมาพร้อม กับคำตอบตลอด (เป็นคนน่าเกรงขาม)
- หน้าที่พี่ต้านเป็นคนที่นั่งเล่น
- คนยิวมีหน้าที่วางแผน วางแผนว่าต้องเล่นยังไง 1 - 2 - 3
- พยายามไปเรื่อยๆ มีการคิดถึงการเล่นที่เหมาะสม

รู้ว่า Poket สำคัญยังไง ?
- mentor ส่ง Coach มาสอน หลังจากเล่นมาซักระยะหนึ่งแล้ว
- จึงรู้เทคนิคมากขึ้น
- Poket ต้องมีการปรับเปลี่ยน แผนการไปเรื่อยๆ

- เจ้าของ คาซิโน เป็นเจ้าของ Board Street

ได้เซนสัญญาเข้ามาใน Board Street
- พี่ต้านมั่นใจ ว่าต้องชนะหลายๆคนแน่นอน เพราะพี่ต้านเคยเทรด TA มาแล้ว
- พี่ต้านใช้ TA เทรดแต่สู้คนอื่นไม่ได้ ที่โหล่ >> รู้สึกว่ามันไม่ใช้ มันผิดปกติ
* โทษโน้นโทษนี้ โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง (มั่นใจว่าตัวเองเก่ง)
- mentor เข้ามาหาพี่ต้าน และบอกให้พี่ต้านเปลี่ยน method
- พี่ต้านต้องเปลี่ยน เพราะถ้าไม่เปลี่ยนก็ไม่ต้องเทรด
- method เป็นการเทรดโดยใช้ Fundamental (ใช้เวลานานในการเปลี่ยน (ครึ่งปี))
- กลับรู้สึกว่า คนที่เป็น mentor ระดับโลกดูถูกเรา (ECO สูง)
- เจอเพื่อน เพื่อนบอกว่า ให้คิดว่าเราเมื่อก่อนเราเป็นอย่างไร
(ตอนนี้เราเก่ง แต่เมื่อก่อนเราเริ่มต้นจากอะไร)
- มองว่าตอนนั้นที่เราล้มเหลว ทำให้ได้คิดว่า ทำไมเราไม่เปิดใจอย่างอื่นดูบ้าง ?
- เริ่มศึกษา  Fundamental ทำได้ดีขึ้น เรื่อยๆ และเมื่อกลับไปเป็นแบบเดิม (ECO)
จะทำให้ประสิทธิภาพแย่ลง
- ศึกษา ,เปิดใจ >> ไปแข่งขันได้ที่ 10 กว่า >> ไปสอบเฟริมใหม่
- เป็น Hedge fund >> ยื่นข้อเสนอว่า อยากเป็น Hedge fund ที่เปิด Fund ที่เมืองไทยได้

- งานที่พี่ต้านทำคือ เอาเงินไปลงทุนใน Fund ต่างๆ Copy กระบวนการต่างๆ ของFund นั้นๆ
ใช้ความสามารถ คณิตศาสตร์ ในการ Copy
- สิ่งที่สัมผัส ได้จากการติดต่องานคือ พวก Fund ต่างๆมี ECO น้อย
- ทำบันทึกไปเรื่อยๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ไปประชุมกับ Fund ต่างๆ >> มีการแลกนามบัตรกัน
- ต้องกลับมาทำ Hedge fund (Riccio)

------------------------------------------------
- ความเข้าใจของเรา คือ Fundamental เกี่ยวกับข่าว
- Fundamental ไม่เกี่ยวกับข่าวเท่าไหร่ จะเกี่ยวกับข่าวก็ต่อเมื่อมรการเปลี่ยนแปลง มากๆ
- ข่าวกลับทำให้เราเห็นมุมเดียว >> ข่าวทำให้เราเห็นคนละมุม
- ศึกษา Funddmental จริงๆ ต้องเห็น 2 ด้าน

เส้นทางการเป็น Fund manager
- การฝึกมีอะไรบ้าง
-- จินตนาการ ถึงความที่เรามีพยายามอย่างแรงกล้า
--- ตอนโดยดูถูก >> ทำเป็นพลัง >> จะมีความตั้งใจ
- ตั้งใจอย่างจริงจัง >>> ต้องเทรดให้ดีมากกว่านี้
จะทำอะไรซักอย่างจริง
-  ถ้าเราอยากเป็น มืออาชีพ เราต้อง Focus กับมันอย่างจริงจัง
- เราต้องฝึกฝนตัวเองตลอด
- เราต้อง Dual กับตลาดตลอด (ต้องเข้าใจ) >> ถ้าเรามีสกิว เราจะมีทักษะ
- เราเป็นคนรู้ตัวเราเองว่าเรามีขีดจำกัดตัวเองแค่ไหน
- เราต้องมีความสุขที่จะเรียนรู้มัน
- เราต้องรู้ว่าคนอื่นคิดยังไง >> แล้วเราจำทำอย่างไรให้ได้เปรียบ
- ทุกอย่างไม่ตลก ถ้าเราทำอย่างจริงจัง

ถ้าเรามาถูกทาง
- เราจะมีประสิทธิภาพ เพิ่มขึ้นเรื่้อย แต่เราไม่สามารถรู้อนาคตได้ >> มโนได้ แต่confirm ไม่ได้
- ถ้ารู้อนาคต เราก็ไม่จำเป็นต้องมี Risk management
- คำถามจะเป็นตัวตัดสินว่าเราชอบ หรือไม่ชอบ

หลังจากที่พี่ต้านมาสอนลง Youtube
- พี่ต้านได้รับอะไรหลายๆอย่างๆ
-- ทำให้คิดถึงเวลาในอดีต และบันทึกความรู้สึกนั้นลงใน ปัจจุบัน
-- ทำให้มอง Macro ดีขึ้นมากกว่าเดิม
-- เทรดดีขึ้น
- ทำให้ไม่สนใจในสิ่งที่ผิดถูก
Ex พวก Gamer สตีม เขาจะเก่งขึ้น เพราะได้ถ่ายทอดมันออกไป

ถ้ามีคนไม่เข้าใจเรา
- ถ้าเรารักมันจริงๆ เราจะหาวิธีการเอง
- การจะเป็นเทรดได้ เราต้องคิดทุกอย่าง ให้รอบด้าน เพราะมันเป็นเกมส์ที่ต้องเจอ

คนเราให้ความสำคัญ กับแต่ละสิ่งไม่เท่ากัน
Ex ถ้าเราให้ความสำคัญ กับครอบครัว ถ้าเหลือเวลา 5 ชั่วโมงเราก็จะกลับไปหาครอบครัว
- ลองถามตัวเองว่าอยากเป็น Trader จริงไหม >> ยอมตายคาหน้าจอได้ไหม ?

- พี่ต้านเดินสายลงทุนตามธรรมชาติ (ให้ตลาดบอก)
- ถ้าถูก จะมีกำไร
- ถ้าผิด จะติดลบนาน โดยดูที่ค่า T (เวลา) >> ไม่มี Cut Loss
-- ลงทุนด้วย ความจริงทาง ตรรกะ
- ตรรกะ ทางคณิตศาสตร์ เป็น Down Trend จะอยู่ใต้ MA
- ถ้าถูกทางจะเทรดได้ตัง

Q : แล้วจะแก้ปัญหา SW ยังไง
A : ถ้า SW ยังไงก็จะได้เงิน >> ถ้าเป็น SW มันจะบอกเราเองว่าจะ SW ไปทางไหน
- การเทรดจะบอกเราเองว่า เราจะเทรดทิศทางไหน
- มองดูว่าเราได้ เงินจากตรงไหน
- ถ้ารู้ว่าได้ เงินจากตรงไหน เราก็เล่นไปทางนั้น

------------------------------------------------
Update Macro
- ทองคำ ค่อยๆขึ้นมาเรื่้อยๆ
- หุ้นเหมืองทอง ค่อยๆ เนียนขึ้นมาเรื่อยๆ
-global ใช้เวลานาน (มีช่วงเวลาในการเก็บ)

Bitcoin (ความคิดเห็นเมื่อ 2015)
- ถ้าจะมีมูลค่าต้อง ผูก Asset
- ไม่ได้รองรับ พฤติกรรมมนุษย์มากนัก
- ถ้ามีการครอบคลอง มันจะมีพลังงานมาก
- ถ้าจะทำให้ BTC มีมูลค่าสูง ต้องผูกกับกิจกรรมของมนุษย์ได้

------------------------------------------------

เพิ่มเติม
- 0002 : MudleyGroup - ระบบทุนนิยม :
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/10/0000-etc.html
- 0004 : MudleyGroup - กลยุทธ์ และจุดอ่อน :
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/11/0004-mudleygroup.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น