Nap
- รูปแบบการนอนอย่างหนึ่งของคนเรา
- เป็นการนอนพักเรียกพลังในช่วงบ่ายหลังรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว
- ช่วงที่เหมาะสม คือ 13.00 - 15.00น.
- มีการวิจัยว่า คนที่นอนกลางวันมีการทำงาน สมองส่วนต่างๆสูงตลอดวัน ,ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความจำ
แบ่งออกเป็นประเภทตามระยาเวลา
- 20 นาที [Power Nap]
-- เป็นการนอนในช่วง non-repid eye movement [NREM]
-- ใช้เวลาสั้นได้ผลดี
-- ทำให้รู้สึกกระปี้กระเปร่า ,กระฉับกระเฉง สมองปลอดโปร่ง
-- เพิ่มประสิทธิภาพในการงาน ได้แก่ การพิมพ์ และการเล่นดนตรี
-- การงีบในระยะเวลานี้เรียกว่า "Power Nap"
- 30 นาที
-- ตื่นขึ้นมา อาจงง หรือง่วงๆอยู่ [อาจปวดหัวนิดหน่อย]
- 60 นาที
-- เป็นการนอนอยู่ในช่วง [Slow-wave Sleep] >> เป็นช่วงที่หลับลึกที่สุด
-- ตื่นมามึนๆ เบรอๆ ช่วงหนึ่ง
-- ช่วยเพิ่มควาทรงจำ [การจำคะศัพท์ต่างๆ]
-- รวมถึงควาดคิดสร้างสรรค์
-- ช่วยเพิ่มทักษะในการตัดสินใจให้ดีขึ้นได้
- 90 นาที
-- เป็นการนอนที่ครบรอบสมบูรณ์
-- เข้าสู่โหมดการนอนหลับ REM [Repid Eye movement >> ส่วนใหญ่ฝันช่วงนี้]
-- ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ช่วยให้ความจำดีขึ้น โดยเฉพาะความจำด้านทักษาะ
-- ตื่นขึ้นมาจะกระปี้กระเปร่า ไม่งัวเงียเหมือนก่อนหน้า
>> ทำให้การแก้ปัญหาต่างเป็นไปอย่างรอบคอบ
# บางบริษัท ให้ความสำคัญกับพนักงานในการนอนกลางวัน พร้อมจัดเตรียมที่
- เราควร Nap ประจำในเวลาสม่ำเสมอ
- ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
- การ Nap ในห้องที่มืดสนิท หรือใช้ผ้าปิดตา ช่วยให้หลับเร็วขึ้น
- การไส่ที่อุดหู (ป้องกันเสียงรบกวน) ทำให้การนอนใช้ระยเวลาที่สั่นมากๆ และมีประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงการหลับลึก (ไม่ควรนอนราบ)
>> นอนยกตัวขึ้นเล็กน้อย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยการ หายใจเข้าออกช้าๆ
- 37% ของการ Nap ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยลดอัตราเสี่ยงโรคหัวใจ แก่ชีวิตได้
------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิง
Link1 : https://pantip.com/topic/32460957
Link2 : http://oknation.nationtv.tv/blog/meaningful/2010/08/05/entry-2
Link3 : https://pantip.com/topic/32491391
Link4 : https://www.dek-d.com/board/view/3311823/
------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น