MudleyGroup : Energy Management EP3

Live from Russia ตอน 3
Energy Management [2]
สรุปความรู้ที่ได้จาก
Link : https://www.youtube.com/watch?v=ol2NWJfliVE&t=19s

-----------------------------------------------------------------------------------
ทบทวนตอนที่ ที่ผ่านมา
- เวลาเราจะเทรน หรือเรียนรู้อะไรก็ตาม เราต้องเคราพ คนที่สอน เราหรือไม่สอนเราก็ตาม
- เราต้องฝึกให้เราเป็นคนที่เคราพคนอื่น >> มันจะช่วยเราในหลายๆเรื่อง
- ตัวเราต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเรา

Energy Management
- สิ่งที่เราต้องหาคือ Bad habbit (นิสัยที่แย่ๆ)
- ถามตัวเองอย่างจริงจัง (มองกระจก และมองที่ตาตัวเอง) >> สอนตัวเองในกระจก
- เวลาที่เราคุยกับตนเองได้ คือช่วงที่เราไม่ค่อยมีกิจกรรม (ชั่วโมงครึ่งชั่วโมง)
- Energy ของเราเสื่อมถอยได้ทางไหน
-- ทางใจ >> ใจที่ไม่ดี >> มีผลต่อการสูญเสียพลังงาน
-- ถ้าเรามีจิตใจที่ดีแล้ว >> ให้เราหาข้อเสียของเรา
- เราต้องทำตารางของตัวเอง
-- เวลาที่เราเทรน มักจะมีตารางที่โค้ชสร้างให้
-- เราต้องสร้างตารางที่เราทำเอง (สร้างวินัยให้นิสัยที่เสีย)
--- นิสัยที่เสียๆ จะเป็นตัวที่ทำให้ Energy เราเสียได้ง่าย Energy Drop
Ex - เราเป็นคนผลัดวันประกันพรุ้ง >> ต้องแก้ไข >> มันทำให้เราไม่ได้เกิด
- เราไม่ชอบออกกำลังกาย เราไม่ชอบทำบัญชี
- เราต้องเริ่มจากตัวเราจริงๆจังๆ >> ไม่ว่าตัวเรามีปัญหาไรไหม
- นับถือคนสอน นับถือตัวเอง
- ส่วนใหญ่เราไม่นับถือตัวเอง ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง >> นับถือตัวเองคือ เราต้องคุยกับตัวเองจริงจัง
Ex ตอนนี้ชีวิตตัวเองเป็นไงบ้าง ไหนลองคุยกันหน่อยดิ๊ ?

- คนส่วนใหญ่ที่ตามกระแส เพราะเรานับถือคนอื่น
- เราอาจจะไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเรา (เราแต่งตัว) , ทำไมเขาถึงชักจูงเราได้ ?

แบ่งระหว่างนับถือตนเอง กับ Ego
- ถ้าเรามี Ego เรามักไม่นับถือคนอื่น >> เรามักคิดว่าตัวเองอยู่จุด สูงสุด
Ex ถ้ามี Ego ด้านการเงิน เรามีเงินสูงกว่าคนอื่น เราก็จะไม่นับถือคนมีเงินต่ำกว่าเรา
- ถ้าเรามี Ego ด้านกีฬา >> เราก็มักตัดสินว่าเราเก่ง
# มันคนละเรื่องกัน

- เราต้องคุยกับตัวเองว่า อะไรคือสาเหตุ ที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ ?
Ex เราขี้เกียจ ชอบเที่ยว ผลัดวันประกันพรุ้ง
- เราต้องคุย และเราต้องแก้ แถมต้องจริงจัง >> ต้องถามตัวเองว่าทำไมทำไม่ได้
- ถ้าเราไม่มีวินัย เราก็ต้องหามาให้ได้
- เราต้องกัดฟันทำ
- การเลิกนิสัยแย่ๆ มันต้องใช้เวลา
- จากนั้น Visual life ตัวเอง >> ในอดีตเราเคยทำอะไรผิดพลาดอะไรมาบ้าง
>> เราไม่อยากจะเป็นแบบนี้แล้ว >> เราต้องทำอย่างไร ?
Ex เรามองตัวเองในอดีต >> รู้งี้ ไม่น่า บลาๆ >> กลับมาเตือนตัวเองในปัจจุบัน
>> ถ้าเราอยู่ในอนาคต เรากลับมาเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว >> เตือนตัวเอง
Ex นักกีฬามืออาชีพ เขามักจะคุยกับตัวเอง
- คุยกับตัวเองไม่ใช้คนบ้า
- "เราต้องเป็นเพื่อนกับตัวเอง"
>> ถ้าเราคุยกับตัวเองแล้วเขาเดินไปด้วยกัน เราจะเสีย Energy น้อย
>> การเรียนรู้ก็จะช้า
# คน 2 คน ไปคนละทางเราจะเหนื่อย เพราะมีคนพายเรือคนเดียว
- ถ้าเราสอนตัวเราแล้ว ร้องไห้ได้ มันจะยิ่งมีพลัง
- ถ้าเราคุยกับตัวเองแล้วไม่รู้เรื่อง เราต้องคุยกับตัวเองหนักขึ้นเรื่อยๆ
- ความเป็นจริง เรารู้ตัวเราว่า เราจะสอนตัวเองยังไง (โค๊ช ไม่รู้ว่าเราชอบไม้อ่อนไม้แข็ง)
- ถ้าเราไม่สือสารอะไรออกมาเลย เราจะไม่รู้ความต้องการที่แท้จริง (คิดอยู่ในหัว)
- ไม่อย่างนั้นเราจะไปขั้นต่อไปไม่ได้
- เราก็โทษใครไม่ได้ด้วย >> เพราะเราไม่พัฒนาตนเอง
- เราต้องแก้ตัวเองให้ได้ อย่าพึ่งมองที่ผลลัพธ์ (90% ล้มเลิกถ้าไม่เห็นผลลัพธ์)
Ex ถ้าเราทำอะไรบางอย่างแล้วเราไม่เก่งขึ้นเราจะทำทำไม

- ถ้าเราไม่สามารถ ควบคุมตัวเองได้ >> อันตราย
Ex เหมือนตัวเรามี Evill ในตัว แต่เราควบคุมมันไม่ได้ เราปล่อยให้มันควบคุมร่างกาย
>> จะเหมือนกับ เกมส์จบแล้ว >> เราจะไม่ใช้พระเอกในเรื่องนี้ (เรากลายเป็นตัวร้าย)
- ถ้าเรา ควบคุม คุย ปรับสมดุลได้ >> เราก็อาจกลายเป็นพระเอก
- เนื้อเรื่องของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
- เราต้องควบคุม พลังในตัวเราให้ได้ก่อน >> ควบคุมไม่ได้ = จบ
- ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเราเก่งขึ้น หรือไม่เก่งขึ้น
- เราต้องหาเส้นทางของตนเอง แต่ละคนมีเส้นทางไม่เหมือนกัน
-- เราอยากไปเส้นทางไหน ไปเส้นทางนี้เพื่ออะไร ? >> เราจะเป็นคนตอบเอง (คนที่รู้คือตัวเรา)
- เราต้องหา Inspiration ของตนเองให้ได้ >> ถ้าเราไม่มี
- มองที่ Process อย่ามองที่ ผล (ถ้าคุยกับตัวเองแล้วถามตัวเองว่าจะเก่งขึ้นไหม นี้คือจบแล้ว)
-- การมองที่ ผลก่อน ร่างกายมันฉลาด ถ้าไม่ได้ผลตามที่ต้องการมันจะท้อ
-- ระยะการแสดงของ ผล บางทีมันต้องใช้เวลา
-- เราต้องทำยังไงก็ได้ ให้การเทรดมีความต่อเนื่อง สุดท้าย ผลจะพัฒนามาเอง
- เมื่อเราพัฒนาตนเองได้ ด้วยตนเอง จะสามารถพัฒนาตนเองได้เร็วกว่าคนอื่น

- การที่เราเครียด เพราะบางทีเราคาดหวังในผลลัพธ์
- ผลลัพธ์บางทีมันทำให้เรากดดันตัวเอง >> ส่งผลให้เครียด
- เราต้องพยายาม และเข้าใจตัวเองไห้ได้ว่า >> ผลลัพธ์ไม่เกี่ยวเราต้องมอง Process
- ความสนุกอยู่ที่ว่า พอเรารู้เป้าหมาย แล้วเราวิ่งไปหามันต่างหาก
- สนุกที่จะแก้ Process >> ทำอย่างไรก็ได้ให้สนุกกับ Process
- เวลาเดินขึ้นเข้า ให้ชื่นชมระหว่างทางไปด้วย
Ex บางคนตั้งเป้าไว้ที่เงิน 10 พอได้ ก็ต่อไป 100 > 1000 แต่ก็ไม่ได้มีความสุข
>> อาจเป็นเพราะสนุกที่ได้ทำ Process มากกว่า

- ธรรมชาติ มีอะไรที่น่าค้นหา
-- เวลาที่เรามีมาก แต่เราไม่พร้อม เราก็ทุกข์
-- ถ้าเราเข้าใจตัวเอง ต่อให้ขาดหาย เราก็เป็นสุข
# คนเราไม่เหมือนกัน (เป็นเสน่ของธรรมชาติ)
- ฝรั่งอยากดำ อาบแดด คนไทยอยากขาว
- ถ้าธรรมชาติไม่สามารถ ควบคุมได้ ธรรมชาติจะควบคุมลำบาก
- ถ้าเราหลุดออกมาได้ เข้าใจได้ >> เราจะกลายเป็นคนที่ได้เปรียบ
Ex ศึกษามนุษย์ เปรียบเทียบกับลิง
-- มนุษย์ มีเงื่อนไข มีความสับซ้อนกว่า
- เราอยากเป็นแบบคนนั้น , คนนั้นอยากเป็นแบบเรา ?
- คนมีหลายประเภท
-- คนมีแรงกระตุ้นที่ผิดทาง
-- คนที่ไม่มีแรงกระตุ้น
- เราศึกษาถึงขั้น ความพอใจก็เป็นยีนส์ แบบหนึ่ง
Ex - เราเกิดมาเป็นมดงาน เราพอใจที่จะเป็นมดงาน เราก็จะทำงานตลอด
>> ถ้าเกิดในโลกนี้ไม่มีความพอใจก็จะเกิดความวุ่นวาย
>> มีอาชีพที่เป็นนักจูงใจ
- คนเราเกิดมาบนความไม่พอใจอะไรบางอย่าง

- Mentor พี่ต้านสอนว่า ให้เราหาจุดอ่อนของเรามาเยอะๆ แล้วให้เราเลือกมาอันหนึ่ง
>> เราจะเลือกอะไรก่อน >> แก้ไข
- ถ้าทุกอย่างพังหมด แต่เรื่องนี้ดี เรายอมไหม ?
- ถ้าเราคุยกับตัวเองได้ จะเริ่มไม่จำเป็นต้องมี Mentor
- เราจะรู้ว่า ผลจะไปทางไหน >> เราจะวิ่งเข้าไปหาคนที่เราต้องการเอง
- Mentor คือคนที่สอนทักษะ ว่าเราจะไปทางไหน

- หนังสือ How To ส่วนใหญ่จะสอนให้เราสกดจิตตัวเอง (ให้ชื่นชมตัวเอง)
- หนังสือ How to ส่วนมาก เขาไปคุยกับคนที่เก่ง >> คนที่เก่งมักบอกคุยกับตัวเองทุกวัน
- การคุยกับตัวเองมันคือ Process หนึ่ง
Ex ความจริง เราแย่ เราขี้เกียจ เรากลับไปชมตัวเองว่าเราเก่ง >> ทุกอย่างก็ไม่เปลี่ยนแปลง
- มนุษย์ เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น ถ้าไม่มีผลลัพธ์มาให้เราไปไม่ได้หลอก
Ex เราเก่งที่สุด แล้วเราเก่งยังไง

- เราต้องออกแบบตัวเองว่าเราจะอยู่ตรงไหน
- ถ้าเราออกแบบได้ เราจะมี การจัดการพลังงานที่ดีได้
- เราออกแบบตัวเรา เราใช้ได้ตลอดชีวิต คนอื่นออกแบบให้เราไมไ่ด้

"เมื่อศิษย์พร้อม อาจารย์จะมา"
- คำว่าพร้อม คือ เราพร้อมจะสอนตัวเองได้
- หมายความว่า เราจะเรียนรู้จากคนอื่นได้ง่าย
- ถ้ายังไม่พร้อม (คุยกับตัวเองไม่ได้) ต่อให้อาจารย์เก่งแค่ไหน ก็สอนเราไม่ค่อยรู้เรื่อง
>> เพราะว่า เรายังไม่รู้เลยว่าจริงๆ เราต้องการหรือเปล่า

Step
1. หา Bad habbit (นิสัยที่แย่ๆ) >> คุยกับตัวเองจริงจัง (มองกระจกก็ได้ มองในตาตัวเอง)
2. เราต้องทำตารางของตัวเอง >> สร้างวินัย
# โค๊ซตัวเราเองให้ได้ >> ถ้าทำไม่ได้ คนอื่นก็โค๊ชเราไม่ได้

- คนส่วนใหญ่เข้ามาอยากเป็น Trader เราต้องเข้าใจถ้าเราอยากเทรดให้ดีกว่าคนอื่น
- เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง >> เราต้องหนีค่าเฉลี่ยไปให้ได้
- เราต้องดูว่าเขารู้อะไร >> และไปมากกว่านั้น อีกขั้น

-----------------------------------------------------------------------------------
Q : ยกตัวอย่างการเทรด Short Term เราต้องรู้อะไร ?
A : - เราต้องรู้ว่าเราคือ นักกีฬา >> นักกีฬาต้องเตรียมพร้อม ทั้งด้านร่างกาย (ร่างกายต้องแข็งแรง)
- ทำให้ตัวเองอยู่ใน Zone ให้ได้

Q : แม่บอกพ่อเป็นคนขี้เกรงใจเกินไป แต่พ่อ Happy อยากทางเป็นข้อเสียหรือเปล่า ?
A : - มันแล้วแต่คน ถ้าพ่อ Happy ก็ดีแล้ว แต่ละคนไหม่เหมือนกัน
- Ex เวลาพี่ต้าน Deal ธุรกิจ พี่ต้านอาจเสียเปรียบตลอด แล้วแต่ใครจะเอาเป็นตัวตั้ง
-- พี่ต้านไม่ได้เอาเงินเป็นตัวตั้ง
- อย่าให้มาตราฐานคนอื่น มาเปลี่ยนตัวเรา >> เรื่องราวของเรามันจะเปลี่ยน
>> บางทีมันส่งผลต่อบทบาทของเรา ,บางทีมันไม่สอดคล้องกัน
- ปัญหาของโลกใบนี้เกิดขึ้นเพราะ เราต้องการให้คนอื่นเป็นไปในเกรณ์ของตนเอง

Q : การคุยกับตัวยังไงไม่ไห้เน้นผลลัพธ์เป็นหลัก ?
A : Ex ผลัดวันประกันพรุ้ง >> เราจะออกแบบยังไง >> ให้เราเป็นคนมีวินัย
-- เราอยากเทรดระยะสั้น >> เราจะฝึกยังไง >> โดยไม่สนใจ Win Rate ในระสั้น

Q : ถ้าคุยกับตัวเองรู้เรื่อง แล้วรู้ว่าตัวเองจะเอายังไงไปทางไหน แต่คนรอบข้างไม่เข้าใจ ทำยังไง ?
A : - เราต้องเข้าใจ และยอมรับก่อน (เป็นเรื่องปกติ)
- มันอยู่ที่เราเตรียมรับมือกับคนรอบข้าง
- ธรรมชาติมีแรงหลายอย่างเสียดทาน >> มันยากที่จะทำให้คนๆ หนึ่งเดินในสายที่ต้องการ
- ธรรมชาติเกิดขึ้นมา เขาจะพยายามควบคุม
- แต่เราจะ ทำยังไง เพราะเข้าใจมัน เราจะได้เปรียบหน่อย

Q : พี่ต้านคิดว่าคนไทยอะไร
A : - ขาดความคิดในการเคาพคนอื้น ,ยอมรับความผิดพลาด
- ปัญหาทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะ เราไม่เคราพกันและกัน
- เราจะชอบตามกระแสด้วย
- เรา Debate กันไม่เป็น ใช้ Bias อารมณ์ เข้ามาเกี่ยว
- ให้คิดว่า เด็กที่ขาดความอดทน โตเป็นผู้ใหญ่ >> จะเป็นอย่างไร ? (สะท้อนคนในสังคม)
-  มนุษย์เรียนรู้เป็นกลุ่ม >> เรียนรู้และซึมซับ จากวัฒนธรรม
Ex ดราม่าเป็นกระแส >> รู้เป็นกลุ่ม
- ฝรั่งฉลาด
-- ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ >> สร้างสารเสพติดที่ไม่ใช้สารเสพติด >> Facebook
-- ใช้วิธีการเจาะกลุ่มตลาดเป้าหมาย ให้เราบริโภคทางใดทางหนึ่ง
- เรากลาบเป็นเหยื่อ >> ใช้ประโยชน์จากการเสพ

-----------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติม
- 0002 : MudleyGroup - ระบบทุนนิยม :
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/10/0000-etc.html
- 0004 : MudleyGroup - กลยุทธ์ และจุดอ่อน :
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/11/0004-mudleygroup.html
- 0006 : MudleyGroup - Hedge Fund Manager 001 :
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/11/0006-mudleygroup-hedge-fund-manager-001.html
- 0008 : MudleyGroup - Hedge Fund Manager 002 :
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/12/0008-mudleygroup-hedge-fund-manager-002.html
- 0009 : MudleyGroup - Trader ยุคใหม่ และโอกาส
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/12/0009-mudleygroup-trader.html
- 0010 : MudleyGroup - เฉลย ข้อสอบกลางภาค 2016
http://yutaro-diary.blogspot.com/2017/12/0010-mudleygroup-2016.html
- 0011 : MudleyGroup - Dark Side Begin
http://yutaro-diary.blogspot.com/2018/04/0011-mudleygroup-dark-side-begin.html
- 0012 : MudleyGroup - Energy Management [0]
https://yutaro-diary.blogspot.com/2018/05/0012-mudleygroup-energy-management-1.html
- 0013 : MudleyGroup - Live From Russia 1
http://yutaro-diary.blogspot.com/2018/05/0013-mudleygroup-live-from-russia-1.html
- 0014 : MudleyGroup - Energy Management [1]
http://yutaro-diary.blogspot.com/2018/05/0014-mudleygroup-energy-management-1.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น